บรรดาคนที่ชื่นชอบกีฬาประเภทเอ็กซ์สตรีม  เชื่อว่าต้องหมายตาที่จะหาโอกาสมาเล่นไคท์เซิร์ท เพราะจัดเป็นกิจกรรมนอกบ้านที่เน้นความท้าทายให้ความสนุกสนานไปพร้อม ๆ กัน และที่สำคัญต้องใช้ความสามารถในการเล่นไม่น้อย ซึ่งต้องผ่านการเข้าคอร์สเพื่อฝึกฝนให้ชำนาญก่อนถึงจะเล่นได้ ..จากนั้นเมื่อเล่นเป็นแล้วร้บรองว่า สนุกมันส์ได้ใจอย่าบอกใคร         

     คนที่เล่นไคท์เซิร์ฟเป็นแล้วจะไม่คิดอะไรมาก มีแต่ความคิดว่าจะเล่นได้สนุกแค่ไหนในวันนี้ โดยสิ่งที่เขาคิดถึงมากกว่าแฟนตัวเองในขณะนั้นก็คือ กระแสลมนั่นเอง



    ก่อนจะเลยไปถึงขั้นนั้น พวกเราประเภทมือใหม่หัดเล่นโลดโผนต้องมาทำความรู้จักกับสิ่งที่เรียกว่า ไคท์เซิร์ฟ (Kite Surf) กันเสียก่อน

    Kite Surf จัดเป็นกิจกรรมทางน้ำระดับก้าวหน้า มีอันตราย หรือระดับ extreme เป็นการโต้คลื่นที่ใช้ว่าวรับลมเป็นแรงในการขับเคลื่อนพานักเล่นทะยานขึ้นเหนือท้องทะเล ตีลังกาม้วนหน้าม้วนหลัง โชว์ลีลาผาดโผนกัน

    เมื่อเป็นกิจกรรมทางน้ำระดับก้าวหน้า นักเล่นไคท์เซิร์ฟทุกคนจึงต้องเข้าคอร์สอบรมการเล่นจากโรงเรียนฝึกหัด Kite Surf โดยผู้เชี่ยวชาญ ในสถานที่จริงคือท้องทะเล



     สำหรับกีฬาประเภทนี้ที่เมืองไทยเราแม้จะยังไม่แพร่หลายมากนัก แต่ก็มีสถานที่รวมคนรักไคท์เซิร์ฟ รวมถึงมีการเปิดคอร์สการเรียนการสอน เช่น ชายหาดหัวหิน ซ.77 (ช่วงเดือนตุลาคม-พฤษภาคม), เกาะพะงัน เกาะสมุย (ช่วงเดือนกันยายน-มีนาคม)

    อุปกรณ์ที่นักเล่นไคท์เซิร์ฟจะต้องมี คือ 

     1.Kite ร่มหรือว่าว มีให้เลือกหลายขนาดหลายเบอร์ ตั้งแต่เบอร์ 5-16 แต่คนไทยส่วนใหญ่จะใช้ Kite เบอร์ 12 เพราะเหมาะกับแรงลมในบ้านเรา

     2.Board หรือกระดานโต้คลื่น ควรเลือกให้เหมาะพอดีกับเท้า ไม่หลวมหรือแน่นจนเกินไป

     3.Harness เข็มขัดที่โยงเชื่อมกับตัว Kite เพื่อดึงตัวเราให้เคลื่อนที่ไป

     4.หมวกกันน็อก อันนี้เพื่อความปลอดภัย ถึงแม้จะเป็นกีฬาทางน้ำแต่ก็ไม่ควรละเลย

     5.เสื้อชูชีพ 

     *** อุปกรณ์ครบเซต มือสองราคาอยู่ที่ 40,000-45,000 บาท มือหนึ่งอยู่ที่แสนกว่าบาท



     เราจะเริ่มต้นด้วยการทำความรู้จักกับอุปกรณ์ประจำตัว 4 ชิ้นคือ เข็มขัดสำหรับยึดตัวว่าว, บาร์ควบคุม, บอร์ด และตัวว่าว จากนั้นเป็นการเรียนรู้การบังคับว่าว ทิศทางของลม การบังคับว่าวให้ไปทิศทางต่าง ๆ ตามที่ต้องการ

     ต่อมาเป็นการเรียนรู้เรื่องบังคับว่าวในน้ำ เป็นการฝึกให้ชินกับแรงลากของตัวว่าวและแรงปะทะของน้ำ อันดับสุดท้ายคือเรื่องการขึ้นบอร์ดที่ต้องใช้การผสมผสานเทคนิคการทรงตัวและการบังคับว่าวเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นเพียงขั้นพื้นฐานเท่านั้น

     Kite Surf ที่นิยมเล่นกันนั้น แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่

     1.Free Style เป็นการโชว์ลีลาวาดลวดลายเหมือนการเล่นยิมนาสติกกลางอากาศและบนท้องน้ำ

     2.Wave-riding มีวิธีการเล่นเหมือนการโต้คลื่น ใช้ทักษะในการทรงตัวบนผิวน้ำ

     3.Racing เป็นการประลองความเร็วที่ต้องอาศัยทักษะ ความชำนาญ และเทคนิคในการบังคับว่าว 
เพื่อการเป็นเจ้าแห่งความเร็วบนท้องทะเล



    ผู้เล่นจะต้องมีทักษะของกีฬา 5 ประเภทประกอบกันคือ เวคบอร์ด (Wakeboarding), วินด์เซิร์ฟ (Windsurfing), กระดานโต้คลื่น (Surfing), พาราไกลดิ้ง (Paragliding) และยิมนาสติก (Gymnastics)

     สรุปง่ายต้องขอย้ำกันอีกครั้งสำหรับผู้ที่คิดจะเล่นไคท์เซิร์ฟต้องผ่านการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ และหมั่นออกกำลังกายอยู่เป็นประจำเพื่อให้มีสภาพร่างกายที่แข็งแรง ไม่ใช่ว่านึกอยากเล่นก็ไปเล่นเลย เอาเป็นว่าอย่าไปซื้ออุปกรณ์แล้วนำไปเล่นเองเป็นอันขาด เพราะอาจบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้